Q&A ที่จะแสดงต่อไปนี้ ผู้จัดทำขออนุญาตใช้ภาษาพูด (ถาม-ตอบ) ในการอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ มากที่สุด
ข้อ1.
Q : ปวส. สมัครเรียนต่อ ปริญญาตรี ต้องเรียนอีกกี่ปี ???
A : มีอยู่ 2 รูปแบบ
1. หลักสูตรที่ระบุว่า รับวุฒิ ปวส. และระบุว่าเป็น "ต่อเนื่อง" จะใช้เวลาการศึกษา 2 ปี
(ขณะนี้มีแค่ วศ.บ.เทคโนโลยีวิศวกรรมระบบขนส่งทางราง และ วศ.บ.วิศวกรรมกระบวนการผลิต เท่านั้นที่เป็น ต่อเนื่อง)
2. นอกนั้นหลักสูตรไหนที่ ระบุว่ารับวุฒิ ปวส. จะใช้วิธีการเทียบโอน การเทียบโอนคือ การนำวิชาเรียนในระดับ ปวส. มาเทียบ กับ วิชาเรียนในระดับปริญญาตรี(ตามระเบียบการเทียบโอน) หากวิชาใดเทียบได้ มหาวิทาลัยจะโอนให้ไม่ต้องเรียนวิชาดังกล่าว : ดังนั้นการคำนวนใช้หน่วยเป็นวิชา ไม่สามารถตอบเป็นปีได้ เช่น จาก 40 วิชา เทียบโอนได้ 15 วิชา ดังนั้น ต้อง เรียนอีก 25 วิชา ส่วน จะใช้เวลาเรียนเท่าไหร กี่ปี ขึ้นอยู่กับผู้เรียน แต่ละคนอาจเทียบโอนวิชาได้ไม่เท่ากัน แต่ละคนอาจเรียนได้จำนวนวิชาต่อปีไม่เท่ากัน
ข้อ2.
Q : จบวุฒิ กศน. สมัครอะไรได้บ้าง ???
A : ไม่ว่าจะจบอะไรมาก็ตามต้องเข้าดู "ประกาศคุณวุฒฺิสำหรับผู้สมัคร" ก่อน ว่าเรียนอะไรมาสมัครเรียนต่ออะไรได้ วุฒิที่ระบุตรงหรือไม่ เพราะหากไม่ตรงถือว่าไม่ผ่าน ทุกกรณี แม้จะตรวจพบภายหลังเข้าศึกษาแล้วก็ตาม : กรณี วุฒฺิ กศน. หาวุฒฺิ กศน. ที่จบมาคือระดับ ม.6 ก็สามารถสมัครได้ ในหลักสูตรที่แจ้งคุณวุฒิผู้สมัครว่า ม.6 เฉยๆ หรือ ม.6 ทุกแผนการเรียน
ข้อ3.
Q : สมัครแล้ว อยากเปลี่ยนสาขา / สมัครใหม่ ทำอย่างไร ???
A : 1. ระยะเวลา/กำหนดการ : การดำเนินการสมัคร ยกเลิกการสมัคร สมัครใหม่ ทุกอย่างต้องอยู่ในระยะเวลากำหนดการรับสมัครของรอบนั้นๆ
เท่านั้น
2. ในกรณีที่เลือกหลักสูตรกดสมัครแล้ว หากต้องการยกเลิก 1) ยกเลิกเพราะจะไม่สมัครเรียนแล้ว 2) ยกเลิกเพื่อจะเปลี่ยนข้อมูลหลักสูตรที่ได้กดสมัคร ต้อง กดยกเลิกการสมัครอันเดิมก่อนเท่านั้น (ไม่ว่าจะชำระเงินค่าสมัครของหลักสูตรอันเดิมหรือไปแล้วก็ตาม) ระบบจึงจะอนุญาตให้เลือกหลักสูตรกดสมัครใหม่ได้ กรณีชำระเงินในหลักสูตรเดิมแล้วหากกดยกเลิกการสมัคร มหาวิทยาลัยไม่คืนเงินที่ชำระไปแล้ว ท่านต้องชำระเงินใหม่ในหลักสูตรที่จะสมัครใหม่ เท่านั้น : การชำระเงินค่าสมัครนับตามเลขที่ใบสมัครของการสมัครและใบชำระเงินค่าสมัครนั้นๆ
กรณีไม่อนุญาตให้กดยกเลิก 1. เฉพาะรอบ 1 Portfolio ผู้สมัคร ที่อยู่ระหว่างการประมวลผล ในการประกาศย่อยแต่ละครั้ง ช่วงระยะเวลา เริ่มตรวจ Portfolio ประมวลผล ถึง ชำระเงินค่าเทอม ขอการประกาศย่อยในครั้งๆนั้น จะไม่สามารถกดยกเลิกการสมัครได้ จนกว่าจะพ้นกำหนดการชำระเงินค่าเทอม ของ การประกาศย่อยครั้งนั้นๆ (เช่น เริ่มตรวจ Portfolio ครั้งที่ 1 ผู้ที่สมัครทันเข้าสู่กระบวนการประมวลผล หากจะยกเลิกการสมัคร ให้รอหลังวันครบกำหนดกระบวนการ นั้นคือหลังวันกำหนดจ่ายค่าเทอม ของ ครั้งที่ 1)
2. ผู้ที่ชำระเงินค่าทอมแล้ว ไม่อนุญาติให้กดยกเลิกการสมัคร หากต้องการกดยกเลิกให้ทำเรื่องขอสละสิทธิ์การเป็นนักศึกษาที่ตนเองชำระเงินค่าทอมแล้ว ที่งานรับนศ.ใหม่ จังหวัดที่สอบผ่าน ก่อนเท่านั้น
ข้อ4.
Q : Clearing House คืออะไร ???
A : Clearing House คือการยืนยันสิทธิ์ (1 คน 1 สิทธิ์) ของผู้ใช้คุณวุฒิระดับ ม.6 ในการสมัครเรียน Clearing House นั้นจะทำโดยผ่านระบบ MYTCAS ที่ดูแลโดย ทปอ.
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ไม่ได้ดำเนินการรับนักศึกษาใหม่ ผ่านระบบ MYTCAS ดังนั้น จึง "ไม่ต้องดำเนินการ Clearing House"
ข้อ5.
Q : มีหลักสูตรเรียน วัน เสาร์-อาทิตย์ หรือไม่ ???
A : หลักสูตรที่ระบุในแผนรับ ว่า ภาคพิเศษ เรียนนอกเวลาราชการ ซึ้งผู้เรียนต้องมีความพร้อมในการเข้าเรียนตามเวลาดังกล่าว
- นอกเวลาราชการ นับตั้งแต่ เย็นวันจันทร์ - ศุกร์ และ วันเสาร์-อาทิตย์ เต็มวัน ขึ้นอย่กับความพร้อมของอาจารย์ผู้สอนในแต่ละวิชา
ข้อ6.
Q : มีทุนเรียนฟรีไหม ???
A : มี 2 ลักษณะ
1. ทุนที่ติดตัวผู้เรียนมา เช่น ทุนในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระเทพฯ ฯลฯ เป็นต้น ให้ดำเนินการประสานงาน กองพัฒนานักศึกษา มทร.ล้านนา โทร.053 921444 ต่อ 1360 , 1361 , 1406 ก่อนกำหนดการชำระเงินค่าเทอมแรกเข้า หรือ ติดต่อก่อนสมัครเรียน (กรณีติดต่อก่อนสมัครเรียนมหาวิทยาลัยอาจพิจารณาให้ได้รับเป็นนักศึกษาโควตาพิเศษ เข้าศึกษาต่อโดยไม่ต้องผ่านเกณฑ์คัดเลือก)
2. ทุนที่มหาวิทยาลัยมอบให้นักศึกษา เช่น โครงการทุนเรียนดีคืนค่าเทอม เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กองพัฒนานักศึกษา มทร.ล้านนา โทร.053 921444 ต่อ 1360 , 1361 , 1406
ข้อ7.
Q : ระบบลงทะเบียน Entrance ที่หมายเหตุ * เป็นข้อมูลที่จำเป็น หากกรอกลงทะเบียนแล้ว ไม่อนุญาตให้แก้ไขได้ หากกรอกผิกต้องการแก้ไขทำอย่างไร ???
A :
1. ก่อนกดเลือกสมัคร ท่านสามารถแก้ไขข้อมูลได้ทุกข้อมูล ดังนั้นให้ตรวจสอบข้อมูลก่อน กดสมัครเลือกหลักสูตร
2. หลักกดเลือกสมัคร ท่านสามารถแก้ไขข้อมูลได้บ้างข้อมูล แต่บางข้อมูลไม่อนุญาตให้แก้ไขได้ทุกกรณี เช่น คำนำหน้า ชื่อ สกุล วุฒิเดิม เป็นต้น โดยถือว่าท่านยืนยันข้อมูลกดกดสมัครแล้ว (โดยระบบจะนำข้อมูลดังกล่าวมาถามท่านเพื่อยืนยันอีกครั้ง) หากกดตกลงสมัครจึงไม่อนญาตให้แก้ไขทุกกรณี
ข้อ8.
Q : ระบบลงทะเบียน Entrance ลืมรหัสเข้าระบบทำอย่างไร ???
A : ให้กดคลิกที่ "ลืมรหัสผ่าน" ระบบจะให้กรอกข้อมูล เลขประจำตัวประชาชน และวันเดือนปีเกิด หากท่านตอบถูกตรงกับที่ท่านได้เคยกรอกไว้ตอนลงทะเบียนครั้งแรก (เป็นการยืนยันตัวตน) ระบบจะรีเซ็ตพาสเวิสให้เป็น เลขประจำตัวประชาชน ดังนั้นให้ใช้ เลขประจำตัวประชาชน เป็นรหัสผ่านในการเข้าใช้งานระบบครั้งต่อไป
ข้อ9.
Q : ชำระเงินค่าสมัครแล้ว สถานะการชำระเงินจะขึ้นเมือไหร่ ???
A : ประมาณ 2 - 3 วันทำการหลังจากวันชำระเงิน (ไม่นับรวมวันหยุดราชการ) ทั้งนี้ให้เก็บเอกสารการชำระเงินไว้เป็นหลักฐาน ถ้าพ้นกำหนด 2-3 วันทำการ ให้ติดต่อมหาวิทยาลัยโดยด่วน เพื่อตรวจสอบ
ข้อ10.
Q : เกรดเฉลี่ยให้กรอกกี่เทอม ???
A : ที่ให้กรอกตอนลงทะเบียนรับสมัคร ระบุหมายเหตุว่า "กรณีกำลังศึกษาอยู่ให้ใส่ เกรดเฉลี่ยเฉพาะของเทอมล่าสุดที่ได้รับ หรือ เกรดเฉลี่ยสะสมจนถึงเทอมล่าสุดที่ได้รับ" ดังนั้น ตอนกรอกใบสมัคร จะกรอก เกรดเฉลี่ยเฉพาะของเทอมล่าสุดที่ได้รับ หรือ เกรดเฉลี่ยสะสมจนถึงเทอมล่าสุดที่ได้รับ ก็ได้
ข้อ11.
Q : ภาคพิเศษ แตกต่างจากภาคปกติอย่างไร ???
A : 1. ภาคพิเศษ เรียนเวลานอกราชการ
2. ภาคพิเศษ ชำระเงินค่าเทอมแพงกว่าภาคปกติ (ดูตามตารางแผนรับ)
3. ภาคพิเศษ เรียนคนละห้อง กับ ภาคปกติ เสมือนเรียน ห้อง ก กับ ห้อง ข , ห้อง/2 กับ ห้อง/3 เป็นต้น
นอกนั้นไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ใช้เล่มหลักสูตรเดียวกัน วิชาที่เรียนเหมือนกัน เหมือนกันหมด แม้แต่ปริญญาบัตร ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็น ภาคพิเศษ หรือ ภาคปกติ
ข้อ12.
Q : ค่าเทอมที่ระบุ ต้องจ่ายเพิ่มอีกไหม ???
A : ค่าเทอมที่ระบุใน ตารางจำนวนรับ คือค่าบำรุงการศึกษา และ เป็นแบบเหมาจ่ายต่อภาคการศึกษา ดังนั้น ทุกภาคการศึกษาเก็บอัตตราเดียวเหมือนกันตลอดจนเรียนจบหลักสูตร ตามกำหนดระยะเวลาเรียนปกติของหลักสูตรนั้น ๆ ยกเว้น ภาคการศึกษาแรกเข้า หรือ เทอมแรกเข้า (ปี1เทอม1) จะมีค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บเพิ่มเติม ดังนี้
- ค่าบัตรนักศึกษา 100.- บาท
- ค่าเรียนปรับพื้นฐาน 1,000.- บาท
- ค่าขึ้นทะเียนนักศึกษาใหม่ 500 บาท
และ ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บเพิ่มเติม ในทุก ๆ เทอม หรือ ทุก ๆ ภาคการสึกษา
- ค่าบริการสาระสนเทศ 500 บาท (จ่ายทุกๆเทอม)
ข้อ13.
Q : เป็นผู้พิการ เรียนได้ไหม ???
A : เรียนได้ ให้เรียนฟรีด้วย แถมไม่ต้องสอบแข่งขันกับคนอื่น แต่.. ต้องพิจารณาให้เข้าศึกษาตามความเหมาะสมในประเภทความพิการและความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยด้วย ตามเกณฑ์รับนักศึกษาพิการ ดังนี้
1. ต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ และต้องแสดงตนให้มหาวิทยาลัยทราบ
2. ผู้พิการสามารถเข้าศึกษาโดยจะได้รับการยกเว้นค่าบำรุงการศึกษาตลอดหลักสูตร
3. มหาวิทยาลัยจะพิจารณาผู้พิการให้เข้ารับการศึกษาตามความเหมาะสมของประเภทความพิการและความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนในแต่ละหลักสูตร ของมหาวิทยาลัย
4. การสมัครเรียน ผู้พิการ/ผู้ปกครอง ต้องติดต่อศูนย์บริการนักศึกษาพิการ (DSS) โทร.053 921444 ต่อ 1360 , 1361 , 1406 ก่อนการสมัครในแต่ละรอบการสมัคร เพื่อคัดกรองประเภทความพิการ และ ความเหมาะสมของผู้พิการในการเข้าศึกษาต่อในแต่ละหลักสูตรก่อน
ข้อ14.
Q : ชำระเงินค่าสมัครได้ที่ไหนบ้าง ???
A : 1. เคาน์เตอร์รับชำระเงินสดธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ (พิมพ์ใบชำระเงินไปแสดง)
2. App. Krungthai Next โดยการสแกน QR Code
Q : แล้วต้องพิมพ์ใบชำระเงินออกมาหรือเปล่า ???
A : ขึ้นอยู่กับชองทางที่จะผู้สมัครเลือกใช้ชำระเงิน
1. กรณีเลือกจะชำระเงินที่ เคาน์เตอร์รับชำระเงินสดธนาคารกรุงไทย ก็ต้องพิมพ์ใบชำระเงิน ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์รับเงิน
2. กรณีเลือกจะชำระเงินผ่าน App. Krungthai Next จะพิมพ์ใบชำระเงิน หรือแค่เซฟรูป QR Code นั้นก็แล้วแต่ความสะดวกของผู้สมัครเอง
ข้อความระวัง!!! ใบชำระเงิน ยึดตามเลขที่สมัคร สมัคร แต่ละหลักสูตรได้เลขที่สมัครไม่เหมือนกัน แม้เลขที่สมัครนั้นจะกดยกเลิกการสมัคร เมือสมัครใหม่ก็จะได้เลขที่สมัครใหม่ ดังนั้นอาจเกิดการชำระผิดได้ดังนี้
ระวัง!!! พิมพ์ใบที่ยกเลิกแล้วไปจ่าย
ระวัง!!! พิมพ์ใบของเพื่อนไปจ่าย
ระวัง!!! ใช้ QR Code ของใบที่ยกเลิกแล้วไปจ่าย
ระวัง!!! ใช้ QR Code ของใบของเพื่อนไปจ่าย
กรณีชำระผิดไม่คืนเงินทุกกรณี
Q : แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามหาวิทยาลัยได้รับเงินที่ชำระไปแล้ว ??
A : ย้อนกลับไปอ่าน QA ข้อที่ 9
ข้อ15.
Q : ใช้วุฒิ ปวส. เป็นวุฒิเดิมในการสมัคร เลือกสาขาแล้ว แต่ใบจ่ายค่าสมัคร ระบุว่า ชั้นปีที่ 1 จริงๆต้องเป็นชั้นปีที่ 3 ไม่ใช่เหรอ ???
A : - ถูกต้องแล้วครับ นักศึกษาใหม่ทุกคน เข้ามาต้องเป็นชั้นปีที่ 1 เหมือนกันหมด ไม่มีใครเข้ามาแล้วกระโดดเป็น ชั้นปีที่ 3
- ถ้าจะให้อธิบาย อันดับแรกให้ย้อนกลับไปดู QAข้อ1. ก่อน เพื่อให้เข้าใจว่า ปวส. เรียนต่อประริญญาตรีคืออะไร ..................
- เมือกลับไปอ่านแล้ว ได้เข้าใจแล้ว ก็จะอธิบายเพิ่มเติมว่า สรุปทุกคนเข้าเรียนปีการศึกษาเดียวกัน เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จะเหมือนกัน แต่...แต่ละคนจะมีจำนวนวิชาที่เรียนไม่เท่ากัน ใครมาจาก ปวส. ก็จะมีวิชาเรียนน้อยกว่า และจบการศึกษาก่อน ใครมาจากวุฒิ ม.6/ปวช. ก็เรียนทุกวิชา
ข้อ16.
Q : อยากสมัครเรียน ต้องทำอย่างไรบ้าง ???
A : ต้องทราบก่อนว่า มหาวิทยาลัย
เปิดหลักสูตรใดบ้าง ??
แต่ละหลักสูตรเปิดเรียนที่ มทร.ล้านนา จังหวัดไหน ??
แต่ละหลักสตร นั้นต้องจบอะไรมาจึงจะสมัครเรียนได้ ??
หลักสูตรที่เราจะสมัครเรียน เขาเปิดรับในรอบการสมัครรอบไหนบ้าง ??
แต่ละรอบการสมัคร แข่งขันกันด้วยอะไร ??
แต่ละรอบการสมัคร เริ่มเปิดรับสมัครวันไหน ??
แล้วจึงพิจารณาเลือกสมัคร ในรอบการสมัคร ในหลักสูตรที่เราประสงค์จะเรียนต่อ โดยข้อมูลต่างๆข้างต้น และ ลงทะเบียนสมัครเรียน ได้ที่เว็บไซต์รับสมัครนักศึกษาใหม่ entrance.rmutl.ac.th
ข้อ17.
Q : อธิบายใบ ปพ./รบ. ที่ต้องใช้ในการอัพโหลดเอสาร และนำมาในวันสอบสัมภาษณ์ หน่อย ???
A : 1 รบ.1 ปพ.1 คือใบแสดงระเบียนผลการเรียน หรือ เกรด ทุกวิชา/ทุกเทอมที่เรียนมา ในวุฒิการศึกษานั้นๆ
รบ.1 --> ปวช. ปวส.
ปพ.1 --> ม.3 ม.6
2 กรณีเรียนครบหลักสูตร(เรียนจบ) เรียกว่า "ฉบับสมบูรณ์" หรือ "ฉบับจบ" จะมีเกรดครบทุกวิชาครบทุกเทอม และจะระบุวันที่จบ พร้อมสาเหตุการจบว่า "จบการศึกษา" เป็นต้น
3 กรณียังเรียนไม่จบ จะระบุเกรดและวิชาเรียน เท่าที่ออกได้จริง ณ วันที่ไปขอเอกสารจากสถานศึกษานั้นๆ (ทุกสถานศึกษานร.สามารถยื่นขอได้ แต่ระยะเวลาการออกใบดังกล่าวแต่ละที่อาจไม่เหมือนกัน) โดยสถานศึกษาอาจจะปั๊มตราว่า ยังไม่จบ,ไม่ใช้ใบจบ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งผู้เรียนทุกคนสามารถไปขอได้ตลอดเวลา (ยกเว้นบางสถานศึกษาที่จะมีช่วงระยะไม่ให้ขอ เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาประมวลผลการเรียนของเทอมนั้นๆ ผู้สมัครต้องมีความพร้อมขอไว้ล่วงหน้า จะอ้างเป็นเหตุไม่ได้)
4 คำว่า "เอกสารฉบับจริง" คือฉบับตัวจริงที่สถานศึกษาออกให้ ไม่ใช้ตัวที่ท่านนำไปถ่ายเอกสารแล้ว ลงชื่อรับรอง จะเรียกว่าตัวสำเนา เอกสารฉบับจริงนั้น สถานศึกษาออกให้แล้วอาจจะปั๊มตราโรงเรียน หรือมีนายทะเบียนลงชื่อกำกับ "ซึ้งอาจจะเป็นฉบับจบด้วย หรือไม่ก็ได้" แล้วแต่ผู้สมัครแต่ละรายที่จัดหามาได้ตามความจริง
ข้อ18.
Q : รอบ 1 ครั้งที่ 1 ประกาศผลแล้ว ไม่ติด จะรอประกาศครั้งที่ 2 ต้องทำอย่างไร ???
A :
- ผู้สมัครที่ไม่ผ่านการคัดเลือก Portfolio ครั้งที่ 1 หรือ
- ผู้สมัครที่ไม่มีรายชื่อในประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ รอบ 1 ครั้งที่ 1 หรือ
- ผู้ที่เข้าสอบสัมภาษณ์แล้ว แต่มีผลสอบสัมภาษณ์เป็น “ไม่ผ่าน” หรือ
- ผู้ที่ไม่มาสอบสัมภาษณ์ ขาดสอบ หรือ
- ผู้สมัครที่สมัครไม่ทันยังได้ไม่รับการประมวลผล Portfolio ในครั้งที่ 1 (ยังไม่ได้เลขที่นั่งสอบ)
"ท่านยังมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาผล Portfolio รอบ 1 ในครั้งที่ 2 – 3 อีก โดยไม่ต้องสมัครใหม่ หรือ ชำระเงินค่าสมัครเพิ่ม"
(หากต้องการอัพโหลดเอกสารใหม่ สามารถอัพโหลดเอกสารใหม่ ทับของเดิมได้)
เปรียบเทียบ เหมือจับฉลาก มาม่าแจกทอง กองแรกจับ ครั้งที่ 1 ผู้ที่ไม่ถูกจับก็จะไปรวมกองกับผู้ที่ส่งมาใหม่ เพื่อรอจับครั้งต่อ ไป
ยกเว้นหากต้องการเปลี่ยนหลักสูตรที่จะสมัครใหม่ ให้กดยกเลิกการสมัครเก่า เพื่อสมัครใหม่ และต้องชำระเงินค่าสมัครใหม่
หมายเหตุ
1 ผู้ที่อยู่ในการประมวลผลครั้งที่ 1 (มีเลขที่นั่งสอบ) จะยังไม่สามารถกดยกเลิกการสมัครได้ จะกว่าจะพ้นกำหนดชำระค่าเทอม ครั้งที่ 1
2 นิยามคำว่า ผู้สมัคร คือ ผู้เข้าระบบสมัคร กดสมัคร ชำระเงินค่าสมัคร 300 และระบบได้ปรับสถานะการชำระเงินว่าชำระแล้ว และไม่มีสถานะกดยกเลิกการสมัคร
ข้อ19.
Q : ต้องสมัคร อัพโหลด วันไหนถึงจะทัน ประกาศ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ???
A :
1.ผู้สมัครสมบูรณ์ที่พร้อมรอตรวจเอกสาร คือ ผู้เข้าระบบสมัคร กดสมัคร ชำระเงินค่าสมัคร 300 และระบบได้ปรับสถานะการชำระเงินว่าชำระแล้ว และไม่มีสถานะกดยกเลิกการสมัคร
2.แต่ละหลักสูตรกรรมการเริ่มวันเข้าตรวจไม่เท่ากัน ด้วยหลายสาเหตุ เช่น จำนวนผู้สมัคร ปริมาณPortที่ต้องตรวจ ความสะดวกของกรรมการแต่ละท่าน เป็นต้น และเมือกรรมการเริ่มเข้าตรวจแล้ว ระบบจะตัดวันตัดจำนวน ไม่เพิ่มผู้สมัครใหม่ในระบบตรวจของครั้งนั้นแล้ว ผู้สมัครที่สมัครหลังจากวันดังกล่าวก็จะไปรวมกลุ่มการประมวลผลครั้งต่อไป ดังนั้น ผู้สมัครควรสมัครให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องสนว่าถึงวันไหน เอาเร็วที่สุดเท่าที่เราทำได้ แล้วใครเร็วกว่าก็ได้ประมวลผลหลายครั้ง ใครมาช้าก็ได้ประมวลผลน้อยครั้งกว่า แต่สุดท้ายแล้ว ในครั้งที่ 3 ผู้สมัครทุกคนก็ได้ประมวลผล
ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา